ผมเชื่อว่าคงมีสักครั้ง สองครั้งในชีวิตที่คุณจะรู้สึกถูกชะตา หรือว่าตกหลุมรักใครสักคนตั้งแต่แรกเห็น ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกัน ผมรู้สึกแบบนั้นกับการปั่นจักรยานท่องเที่ยว ยามากุจิ (Yamaguchi) ในทันทีที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ตกลงในทะเลของวันแรกที่มาถึงเมืองนี้

ก่อนเดินทางมาพยากรณ์อากาศบอกว่าเราจะเจอฝน แต่ตลอดเวลา 4 วันที่เราอยู่เมืองนี้ มันมีแต่ดีและดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน เริ่มต้นยามเช้าด้วยอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส และช่วงที่อุ่นที่สุดของวันก็ไม่เกิน 20 องศาซาเซลเซียส นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะลงตัวที่สุดที่ได้มาปั่นจักรยานที่ ยามากุจิในช่วงเวลานี้ (ช่วงเวลาที่เดินทาง 25 – 31 มีนาคม)
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดยามากุจิ ที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ เราได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวของจังหวัดยามากุจิ และบริษัทจัดการท่องเที่ยวด้วยจักรยานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศของเมืองไทยอย่าง Octo Cycling ผู้อำนวยความสะดวกทุกอย่างตลอดการเดินทาง

การเดินทางสู่ Yamaguchi
จากเมืองไทยเราเลือกนั่งไฟลท์ดึกจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) โดยสายการบินไทยใช้เวลาเดินทางเพียง 4 ชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงทันได้เห็นแสงแรกของเมืองฟุกุโอกะ ในยามเช้า เมื่อได้รับกระเป๋าสัมภาระและกระเป๋าจักรยานเรียบร้อยแล้ว เราจึงขนขึ้นรถบัสที่ทาง Octo Cycling ได้จัดเตรียมไว้ให้เพื่อออกเดินทางสู่เมืองยามากุจิ

มื้อกลางวันแรกที่ยามากุจิ
อาหารมื้อแรกที่เราได้ทานหลังจากนั่งรถบัสมาเกือบ 2 ชั่วโมง คือเมนูเลื่องชื่อและเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด นั่นคือโซบะบนกระเบื่อง มีเรื่องเล่าว่าเมนูถูกคิดขี้นในช่วงสงครามกลางเมือง เนื่องจากภาชนะทำอาหารขาดแคลน จึงต้องใช้กระเบื่องหลังคาทดแทนภาชนะทำอาหาร แต่แทนที่มันจะเป็นเพียงภาชนะฉุกเฉินที่ใช้ทำอาหารยามยากไร้ ประทังหิว แต่กลับรังสรรค์ให้เกิดมิติใหม่ในการกินโซบะแสนอร่อย อย่างไม่น่าเชื่อ

ต้นตำรับ โซบะบนกระเบื้อง ร้าน Kawara Soba
เส้นโซบะของร้านนี้ใช้แป้งอย่างดีจากโอซาก้า (Osaka) และชาเขียวจาก เกียวโต (Kyoto) โดยการเสิร์ฟเค้าจะเสิร์ฟเส้นโซบะมาบนกระเบื้องหลังคาร้อนๆ มีไข่เจียวบางๆ ถูกหั่นเป็นเส้นโปะมาด้านบน โดยมีมะนาวฝานและไชเท้าฝอยๆ ปั้นเป็นก้อนอยู่บนสุด เวลาจะทานให้รินน้ำซุปใส่ถ้วย และนำไชเท้าใส่ลงไปในน้ำซุป จากนั้นให้นำเส้นคลุกเคล้าบนกระเบื้องหลังคา จนเส้นกรอบขึ้นจึงนำมาจุ่มน้ำซุปก่อนรับประทาน
ต้องยอมรับว่าเป็นความแปลกใหม่ในการกินโซบะจริงๆ ด้วยเส้นที่กรุบกรอบ และความหอมของน้ำซุป ถ้าอยากเพิ่มความแปลกใหม่ของรสชาติอีก ให้นำมะนาวหั่นฝานใส่ลงไปในน้ำซุป แล้วเอาเส้นกรอบๆ ลงไปเคล้า ก็จะได้ความอร่อยอีกรสชาติในเมนูนี้
ทสึโนะชิมะ (Tsunoshima) หาดทรายขาว ทะเลมรกต
หลังจากนั่งรถเลียบเลาะชมวิวทะเลไม่นาน หลังทานอาหารกลางวัน เราก็เดินทางมาสู่เกาทสึโนะชิมะ ที่นี่มีสะพานชื่อเดียวกันที่ทอดยาวเชื่อมกันระหว่างเกาะและแผ่นดินใหญ่ โดยเคยเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วยระยะทาง 1,780 เมตร แต่ปัจจุบันกลายเป็นอันดับสองแล้ว

ด้วยความสวยงามของทิวทัศน์ทั้งทะเลอะมะงะเสะที่อยู่เบื้องล่าง และสะพานทสึโนะชิมะที่ทอดยาว จึงทำให้สะพานแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำทั้งภาพยนตร์และโฆษณา โดยเฉพาะรถยนต์
สะพานทสึโนะชิมะเป็นสะพานที่มีความกว้าง 2 เลน และจำกัดความเร็วที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงอย่างนั้นจักรยานก็สามารถใช้ร่วมบนสะพานนี้ได้ ต้องบอกตามตรงว่า ตอนที่ผมปั่นข้ามสะพานนี้ มีสองความรู้สึกเกิดขึ้น คือสวย และเสียว ด้วยความที่สะพานนี้เป็นสะพานเชื่อมเกาะ พาดผ่านทะเลและมีความสูงจากน้ำทะเลค่อนข้างมาก เวลาปั่นไปพร้อมๆ กับมองวิว ก็จะรู้สึกเสียวๆ เล็กน้อยเพราะส่วนตัวค่อนข้างกลัวความสูง และลมที่พัดมาก็ค่อนข้างแรง จนรู้สึกจักรยานเซหลายครั้ง แต่ว่าที่น่าประทับใจคือรถยนต์ที่ใช้สะพานนี้จะค่อนข้าง ระวังเวลาที่ขับผ่านเรา จะไม่ผ่านใกล้ๆ ให้เรารู้สึกอันตราย
ปั่นจักรยานเที่ยวเกาะทสึโนะชิมะ แห่งยามากุจิ
หลังจากปั่นจักรยานข้ามสะพานทสึโนะชิมะที่ยาวเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นมาแล้ว ก็จะมาถึงเกาะทสึโนะชิมะ ซึ่งเส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวเกาะนี้ถึงแม้จะมีระยะทางปั่นวันนี้จะเพียงแค่ 10 กว่ากิโลเมตร ท่ามกลางอุณภมิ 18 องศาเซลเซียส ก็สามารถเรียกเหงื่อของเราออกมาได้ไม่ใช่น้อย ด้วยเส้นทางที่เป็นทางขึ้นลงเขายาวๆ ซะส่วนใหญ่ แต่ก็ให้ความรู้สึกอิ่มเอมไปกับการปั่นไม่ใช่น้อย เพราะเส้นทางปั่นบนเกาะนี้ก็สวยงาม และอากาศดีมากๆ ด้วยเส้นทางปั่นที่ท้าทาย และมีวิวหลากหลายให้เราได้ชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นหอประภาคาร ที่ตั้งตระหง่านอยู่มุมหนึ่งของเกาะ รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่สะอาดมากๆ
และที่สำคัญที่สุดถ้ามีโอกาสมาเยือนเกาะนี้ ผมอยากให้คุณได้แวะไปชิมไอศครีมร้านหนึ่ง ซึ่งแนวมากๆ หน้าร้านจะติดป้ายไว้ว่า ห้ามถ่ายรูป ห้ามเช็คอินโซเชียลทุกชนิด ร้านนี้ชื่อ Lighthouse เป็นร้านไอศครีมร้านเดียวที่อยู่ใกล้หอประภาคารแห่งนี้ และแน่นอนว่าไอศครีมที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้ที่ใดเลย
สู่ค่ำคืนที่งดงามที่โรงแรม Nishi – Nagato Resort
ถึงแม้จะเป็นเวลาเพียงช่วงครึ่งวันที่เราได้ปั่นจักรยานท่องเที่ยวเกาะทสึโนะชิมะ แต่ก็เป็นครึ่งวันที่อิ่มเอม จนเริ่มเห็นสเน่ห์ของเมืองนี้ ที่เริ่มเฉิดฉายให้เราได้เห็นความน่าหลงไหลของยามากุจิ ทั้งทะเลที่สวยงาม และแสงแดดที่น่าหลงไหล เราโชคดีที่ได้พักในโรงแรม Nishi Nagato เพราะโรงแรมนี้มีทิวทัศน์ที่งดงามมากๆ ตั้งแต่ล็อบบี้ ไปจนถึงห้องที่เราพัก ทุกจุดจะหันหน้าออกทะเล ทำให้เราได้เห็นภาพที่งดงามของทสึโนะชิมะ โดยเฉพาะแสงอาทิตย์ยามเย็น แผนสีแดงเฮือกสุดท้ายก่อนลับขอบทะเลไป นี่คือช่วงเวลาที่งดงามมากที่สุดช่วงเวลาหนึ่ง ที่ดึงดูดให้วันแรกในยามากุจิน่าหลงไหล ที่สำคัญโรงแรมนี้ยังมีออนเซ็นกลางแจ้งที่ได้สัมผัสวิวทะเลอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเดินทางท่องเที่ยวยามากุจิ เพียงครึ่งวันเท่านั้น เส้นทางที่สวยงามและความประทับใจอีกมากมายยังรอเราอยู่ในอีก หลายวันต่อจากนี้ ติดตามได้ในตอนต่อไปครับ รับรองว่าคุณจะหลงรักและอยากเอาจักรยานไปปั่นเที่ยวยามากุจิเหมือนพวกเรา
การเดินทางสู่ทสึโนะชิมะ
ลงสถานี JR คตโทอิ นั่งรถบัส 28 นาที ลงป้ายโทได โคเอ็น-มาเอะ
สนับสนุนการเดินทางโดย
การท่องเที่ยวจังหวัด Yamaguchi
บริษัททัวร์จักรยาน Octo Cycling