ปั่นจักรยานเที่ยว นครฯ นอนคีรีวง
ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐออกนโยบาย เชิญชวนให้คนออกไปเที่ยวเมืองรอง แล้วมีคนตอบรับ อย่างทริปที่ผมได้เดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับบริษัท Octo Cycling บริษัทที่รับจัดทัวร์ท่องเที่ยวด้วยจักรยาน มีความชำนาญทั้งเส้นทางในและต่างประเทศ ซึ่งในครั้งนี้ได้พาผมและพี่ๆ อีกหลายท่านมาปั่นเที่ยวกันที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พอลงใต้ทีไร มันก็มีอาหารไม่กี่อย่างให้นึกถึง หนึ่งในนั้นที่พลาดไม่ได้คือการได้กินขนมจีนเส้นสด หลังจากเครื่องบินแตะรันเวย์จังหวัดนครศรีธรรมราช พวกเราก็รีบขนกระเป๋าและข้าวของต่างๆ ขึ้นรถตู้มุ่งหน้าสู่ร้านอาหารมื้อแรก
Sala Cafe ขนมจีนเส้นสด
ร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ ในสไตล์ร่มรื่น บรรยากาศเป็นเอง มุมหนึ่งของร้านซึ่งเป็นจุดบริการจะมีการทำเส้นให้เห็นกันสดๆ ร้านนี้มีเมนูอาหารให้เลือกทานได้หลากหลาย ขนมจีนไม่ว่าจะน้ำยาแบบไหน ก็รสชาติดีแบบไม่มีเสียชื่อ จะน้ำยาหวาน น้ำยาเผ็ด หรือไตปลากระทิก็มีให้เลือก ส่วนผักเคียงมีให้แบบจุใจไม่หวงกันเลยทีเดียว
วัดเจดีย์ไอ้ไข่
หลังจากทานอาหารเสร็จ คณะของเราก็ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถวัดเจดีย์ไอ้ไข่ ซึ่งมีสถานที่กว้างใหญ่เหมาะสมจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปั่นจักรยานท่องเที่ยวสำหรับพวกเราในครั้งนี้ ซึ่งเจดีย์ไอ้ไข่ ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงของอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเรื่องเล่าและตำนานมากมาย ที่กล่าวถึงเล่าขานเกี่ยวกับรูปปั้นเด็กชายวัย 10-12 ปี ที่ผู้คนต่างมาสักการะกัน จึงทำให้ระหว่างทางที่เราเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยรูปปั้นไก่เรียงรายตลอดทาง คนที่มาบนบานขอพรที่นี่ก็เห็นมีอุ้มไข่ไก่กันมาเป็นกระจาดใหญ่ และมีการจุดประทัดแก้บนจนกองเป็นภูเขา
ปั่นจักรยานท่องเที่ยว สิชล ยลทะเล
เมื่อท้องอิ่มแล้ว เสื้อผ้าพร้อม จักรยานพร้อม เราก็เริ่มปั่นจักรยานออกจากวัดเจดีย์ไอ้ไข่ ไปตามถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยรูปปั้นไก่ซึ่งมีให้เห็นหลากหลายขนาด ปั่นไปตามเส้นทางชุมชนอยู่ไม่นาน ทีมงาน Octo Cycling ก็พอเราปั่นเลาะไปตามเส้นทางสวน เลี่ยงออกจากถนนใหญ่ ให้เราได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นสไตล์การท่องเที่ยวในแบบของ Octo Cycling ที่มักจะเลือกเส้นทางเลี่ยงออกจากถนนใหญ่ให้มากที่สุด ไม่เน้นทำความเร็ว แต่ให้ผู้ร่วมทริปได้มีเวลาได้เห็นรอยยิ้มของผู้คนระหว่างทาง ได้ยินคำทักทาย ได้เห็นวิวสองข้างชัดเจนขึ้น
เส้นทางสวนชาวบ้านที่เราปั่นผ่าน ก็มีพืชและผลไม้นานาพันธุ์ แต่เท่าที่เห็นมากที่สุดคงจะเป็นต้นมะพร้าวที่ยืนต้นสูงใหญ่ให้ร่มเงาพวกเราในระหว่างเดินทาง ปั่นจักรยานเที่ยวต่างจังหวัด พอหลบเลี่ยงจากถนนใหญ่ได้ ถนนส่วนใหญ่ก็รถน้อยแล้ว มันยิ่งทำให้การปั่นจักรยานท่องเที่ยวสนุกมากขึ้น
ตอนที่ไปทริปนี้ผมเพิ่งหายจากการเป็นไข้เลือดออกได้ 2 สัปดาห์ และคุณหมอบอกว่ายังไม่ควรออกกำลังกายหนักนัก โชคดีที่ทางร้าน Develop ได้อนุเคราะห์เอาจักรยานไฟฟ้ามาให้ผมได้ใช้ ซึ่งเป็นจักรยานพับยี่ห้อ Tern รุ่น Vektron เป็นจักรยานพับที่รูปทรงคล้ายจักรยานตระกูล Tern Verge ที่หลายๆ คนรู้จักและคุ้นตา แต่ว่ารุ่นนี้จะดูแข็งแรกกว่า เฟรมดูหนากว่า และมาพร้อมกับยางหน้ากว้างอย่าง Big Apple ซึ่งบอกเลยว่ารถนอกจากหน้าตาดูหนักแล้ว ของจริงก็หนักพอสมควร แต่ที่น่าแปลกใจคือปั่นได้ไหลลื่นมาก ยิ่งพอได้ใช้ระบบไฟฟ้าช่วยในการปั่น การที่ใช้ยางรุ่นนี้มันทำให้การปั่นบนเส้นทางที่หลากหลายยากคาดเดา กลับให้ความรู้สึกปลอดภัยและนุ่มสบายอย่างไม่น่าเชื่อ
หลังจากปั่นจักรยานเลาะไปตามเส้นทางชุมชน ผ่านสวนอยู่พักใหญ่เราก็ได้มาเห็นทะเล และเตรียมพร้อมเข้าสู่ที่พักในคืนแรก ซึ่งเหมือนมีชายหาดส่วนตัวที่สามารถเดินออกมาชมได้ ไม่กี่ก้าวจากห้องนอนที่พัก พร้อมอาหารทะเลสดๆ ที่กำลังรอเราอยู่ในมื้อค่ำ เพื่อเติมพลังสำหรับวันใหม่ในการมุ่งหน้าสู่คีรีวง
สู่วันใหม่ปั่นจักรยานไปคีรีวง
เช้านี้ผมตื่นมาตอนตีห้ากว่าๆ ด้วยหวังว่าจะได้เห็นแสงอาทิตย์แรกของวัน แต่ด้วยเมฆที่หนาแน่นมากไปนิด จึงบดบังดวงอาทิตย์เห็นได้เพียงแค่แสงสีเหลืองลางๆ ที่พยายามจะเล็ดลอดออกมา หลังจากทานอาหารเช้าและเก็บสัมภาระเรียบร้อย เราก็พร้อมออกเดินทางมุ่งหน้าสู่คีรีวง โดยมีภูเขาอยู่เบื้องหน้าและทิ้งวิวทะเลที่สวยงามไว้เบื้องหลัง
ภาพของเรือประมงลำเล็กๆ ที่ลอยอยู่บนผืนน้ำทะเลนิ่งๆ ท่ามกลางสายลมเอื่อยๆ ในยามเช้า ชวนพาให้จิตใจรู้สึกสงบก่อนออกเดินทาง เราปั่นจักรยานไปตามถนนที่พอมีวิวทะเลให้มองเห็นได้บ้างอยู่ด้านข้าง ปั่นข้ามสะพานสูงที่ทอดบนแม่น้ำที่ไหลออกสู่ทะเล มองเห็นหมู่บ้านและเรือประมงเกาะกลุ่มเรียงรายสวยงาม จุดหมายต่อไปของเราคือการปั่นจักรยานเข้าเมืองมุ่งสู่ร้านติ่มซำชื่อดังให้ทันเวลาอาหารกลางวัน
ตังเกี๋ย แต่เตี้ยม
เราใช้เวลาปั่นจักรยานราว 4 ชั่วโมงจากโรงแรมที่พักชายทะเล เข้าสู่ตัวเมืองถึงร้านตังเกี๋ย แต่เตี้ยมทันเวลาบ่ายพอดีๆ จริงๆ แล้วร้านนี้เป็นร้านอาหารเช้ามีชื่อของคนนครศรีธรรมราช เป็นอาหาร 4 คูหา ภายในมีที่นั่งกว้างขวาง ร้านนี้มีเมนูติ่มซำและอาหารให้เลือกทานได้กว่า 50 เมนู นอกจากติ่มซำที่เป็นอาหารขึ้นชื่อแล้ว ยังมีโจ๊ก บะกุ๊ดเต๋ และข้าวยำ เป็นเมนูแนะนำอีกด้วย
ปั่นเที่ยวเดินชม เมืองนครฯ
ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีพิพิธภัณฑ์และวัดสวยๆ อยู่หลายแห่ง แต่ด้วยเราต้องแข่งกับเวลา จึงไม่อาจมะเมียดกับสถาปัตยกรรมและอาคารที่สวยงามเหล่านั้นได้นาน จึงทำได้เพียงแวะชื่มชมถ่ายรูปกับบางสถานที่เท่านั้น อย่างเช่น วัดพระมหาธาตุวรวิหาร ซึ่งกำลังมีการบูรณะเจดีย์อยู่ด้วย พื้นที่วัดดูกว้างขวางสวยงามสะอาดตา ที่ถนนฝั่งตรงข้ามยังมีบ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ ตั้งอยู่ด้วย
เรือนปั้นหยาหน้าตาสวยงามและยังดูสมบูรณ์ไม่ทรุดโทรมหลังนี้ถูกรักษาโดยลูกหลานเหลนของอดีตนายอำเภอแห่งนครศรีธรรมราช ชื่อเดิมคือนายเขียน มาลยานนท์ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าจากในหลวงรัชกาลที่ 6 ให้เป็น ขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นายอำเภอเมืองกลาย ถือศักดินา 800 ไร่ ในปี พ.ศ. 2455 ต่อมาสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นโรงเรียนและปิดตัวไปในช่วงสงคราม เอเชียบูรพา (อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.thaitribune.org)
คืนนี้จะนอนคีรีวง
จากเมืองนครไปคีรีวงมีระยะทางอีกราวๆ เกือบ 30 กิโลเมตร เราใช้เส้นทางปั่นลัดเลาะหาทางเลี่ยงถนนใหญ่ ออกจากเมืองไม่นานก็พบกับเส้นทางที่สุดแสนสงบ และสวยงามมากๆ เส้นทางแบบนี้คงมีแต่คนบอกว่าอย่าไปถนนไม่ดี แต่สำหรับจักรยานอย่างเรามันคือดี เพราะไม่มีรถยนต์อยากมาใช้ ถึงแม้ผิวถนนจะขรุขระบ้าง เป็นทางหิน มีหลุมบ่อ แต่เมื่อเทียบกับวิวสองข้างทางที่เขียวขจี มีภูเขารออยู่เบื่องหน้า มีคลองเล็กๆ อยู่ตรงกลางระหว่างถนน 2 เส้นที่คู่ขนานกันไป โดยที่เราจะเลือกไปปั่นฝั่งไหนก็ได้ มันก็เป็นอะไรที่สนุกและสบายใจดีไม่น้อย
เส้นทางที่เราปั่นตั้งแต่ออกจากเมืองมาค่อนข้างเงียบสงบ และเหมือนฟ้าจะเป็นใจให้วันนี้แดดไม่ร้อนมาก มันยิ่งทำให้ถนนสงบๆ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติดูสวยงามมากยิ่งขึ้น หลังจากปั่นเส้นทางเรียบๆ ยาวๆ ไร้เนินเขาอยู่ราวๆ เกือบ 20 กิโล คีรีวงก็อยู่ไม่ไกลเกินกว่าที่เราจะปั่นไปถึงแล้ว ท้องฟ้าเริ่มหรี่แสงลดลง เมฆฝนเริ่มก่อตัว สายลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ มันยิ่งทำให้การปั่นในช่วงสุดท้ายมีความลุ้นและสนุกมากยิ่งขึ้น
ถนนหนทางค่อนข้างดี มีถนนราดยางมะตอยเรียบเนียนแทบจะไม่มีหลุมบ่อให้เห็น เส้นทางที่เราไปเริ่มมืดครึ้มทั้งด้วยเมฆฝนและความหนาแน่นของต้นไม้ ในขณะที่ผมกำลังปั่นเร่งความเร็วแข่งกับลมฝนที่กำลังเคลื่อนตัวตามมา มี 2 ครั้งที่เกือบโดนกิ่งไม้หล่นมาใส่ จากลมที่พัดกรรโชกแรง ทำให้เส้นทางมุ่งหน้าสู่คีรีวงมีความตื่นเต้นมากขึ้นไม่ใช่น้อย ผมเชื่อว่าขาแรงที่ชอบปั่นเส้นทางเนินเขาน่าจะชอบที่นี่มากแน่ๆ ถนนดีๆ มีเนินขึ้นๆ ลงๆ ให้เล่นบ่อยๆ เนินแต่ละลูกดูเร้าใจแต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะปั่น จักรยานไฟฟ้าล้อ 20 นิ้ว น้ำหนักราวๆ 20 กิโล ยังสามารถปั่นได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าช่วยเลย เส้นทางเข้าสู่คีรีวง เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ปั่นจักรยานได้สนุกมากๆ
ถึงแล้วคีรีวง
ก่อนฟ้าจะมืด ฝนตกปอยๆ ณ สะพานที่ทอดยาวพาเข้าสู่ชมชนคีรีวง เราก็ปั่นจักรยานมาถึงกันจนได้ ทันได้เห็นภาพของหมู่บ้านที่ถูกขนาดนามว่าอากาศดีที่สุดในประเทศไทยสักที ผมจอดจักรยานไว้ข้างทางก่อนจะหยิบกล้องมาถ่ายภาพของพี่ๆ ที่ปั่นจักรยานมาด้วยกัน ขณะที่พวกเข้ายืนสูดอากาศสดชื่นของที่นี่อีกฟากหนึ่งของสะพาน อากาศเย็นนิดๆ และสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้น ถึงแม้ว่าน้ำในคลองท่าดีจะดูเหือดแห้งไปสักหน่อย แต่ก็มีปริมาณน้ำมากพอให้ใครหลายคนลงไปเดินเล่นได้ เรามีเวลาถ่ายรูปเล่นกันนิดหน่อย ก่อนฟ้าจะมืดและทันเวลาพอดีก่อนที่ฝนจะเทลงมา เราก็ถึงที่พักเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ได้แต่รอลุ้นที่จะได้เห็นภาพของคีรีวงชัดๆ ในเช้าวันใหม่ที่รออยู่พรุ่งนี้
เช้าที่สดใสในคีรีวง
ถึงแม้จะดูเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ยามเช้าที่บ้านคีรีวงก็ดูคึกคักทั้งที่ตลาดและคลองท่าดี ตอนที่เรามาถึงเมื่อวานมันดูเงียบกว่านี้ คงเพราะว่าเป็นช่วงเวลาเย็นแล้ว แต่เช้าวันนี้ด้วยอากาศที่สดใสขึ้น การได้สูดรับอากาศดีๆ และมีตลาดน่ารักๆ ของชาวบ้านให้เดิน มันทำให้ที่นี่มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเงิน 100 บาทสามารถซื้ออาหารทำให้คนอิ่มได้ 3 – 4 คนเลยทีเดียว
ปั่นเที่ยวก่อนลา
เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปแบบ 3 วัน 2 คืน เราจึงไม่มีเวลาอ้อยอิ่งกับแต่ละสถานที่นานนัก การเดินทางท่องเที่ยวด้วยจักรยานกับเวลาที่จำกัด เราจึงต้องจัดสรรเวลาให้ดี เราอาจไม่ได้อิ่มเอมกับสถานที่ปลายทางที่ไปมากนัก แต่มันคุ้มค่าตรงที่เรารู้สึกเหมือนได้เที่ยวตลอดทาง ต่างกับการนั่งรถเที่ยวที่ได้เที่ยวเพียงจุดหมาย เราจึงใช้เวลาช่วงเช้าที่ยังพอมีอยู่ปั่นจักรยานเที่ยวชมบ้านคีรีวงกัน ก่อนที่จะกล่าวคำอำลา
ช่วงเวลาที่เรามาปั่นจักรยานกันที่นี่คือเดือนมิถุนายน น้ำในคลองท่าดี คลองที่ไหลผ่านเป็นลำธารคล้ายลำธารน้ำตก ผ่านบ้านคีรีวง มีปริมาณน้ำไม่มากนัก หากหวังว่าจะมาเล่นน้ำก็อาจต้องเลือกหาทำเลดีๆ ที่เหมาะสมลงไปเล่น ทิวทัศน์หมู่บ้านที่ถูกโอบล้อมด้วยป่าเขา เขียวขจีมีน้ำไหล มันทำให้หมู่บ้านนี้ดูมีสเน่ห์ ในแบบของตัวเอง ที่พักก็ให้เลือกหลากหลายระดับราคา แต่อาจไม่หรูหรามากนัก แต่พักได้พอสบายกายและใจ
ร้านขนมจีนป้าเขียว
ถ้าหากถามว่ามาเที่ยวบ้านคีรีวง ผมมีอาหารมื้อไหนประทับใจที่สุด ผมขอยกให้กับร้านนี้หากมาเที่ยวที่คีรีวง ขนมจีนป้าเขียว คือร้านที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยวิธีการเสิร์ฟเป็นเอกลักษณ์ ผักสดมีให้เลือกหลากหลายไม่แพ้ในร้านสลัดบาร์ ไม่ว่าจะน้ำยาอะไรพอได้ราดไปบนขนมจีนป้าเขียวคืออร่อยหมด ที่สำคัญถ้าได้กินมันกับไก่ทอดที่มีขายอยู่ในร้าน ขนมจีนร้านนี้คือความลงตัวที่สุดที่คุณยากจะหาได้จากร้านขนมจีนธรรมดาๆ ทั่วไป จนผมไม่รู็สึกแปลกใจเลยว่า ทำไมคนถึงเดินเข้าออกร้านนี้ไม่มีหยุด รถจอดแน่นเต็มลานจอด เป็นโชคดีของเราที่ปั่นจักรยานมา
ถึงเวลาต้องลาแล้วนครศรีธรรมราช
นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่อิ่มเอมทั้งการปั่น สถานที่และวิวสองข้างทาง 3 วัน 2 คืนในนครศรีธรรมราช อาจฟังดูเหมือนเป็นเวลาท่องเที่ยวที่น้อย แต่ก็เป็นเวลาพอดีๆ สำหรับเราที่ปั่นจักรยานท่องเที่ยว ได้นอนทั้งริมทะเล และบนเขา ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศที่ต่างกันในแต่ละวันไป อาหารแต่ละที่ที่เราได้ทาน ก็มีจุดเด่นที่ความสดใหม่ของวัตถุดิบ หาความประทับใจได้ในทุกมื้อและทุกร้านที่เราผ่านแวะไป เมืองสงบผู้คนมีน้ำใจ ทำให้นครศรีธรรมราชเป็นอีกเมืองที่ปั่นท่องเที่ยวได้อย่างสนุก และสุขภาพพอดีๆ
ขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง
บริษัท Octo Cycling ผู้ให้บริการท่องเที่ยวด้วยจักรยานยาน และการผจญภัยในรูปแบบต่างๆ ที่มีเส้นทางมากมายทั้งในและต่างประเทศ
ขอบคุณผู้สนับสนุนจักรยานที่ใช้ในการเดินทาง
บริษัท Develop ที่สนับสนุนจักรยาน Tern Vektron จักรยานพับไฟฟ้า สมรรถนะดีที่ให้ผมเอามาปั่นเที่ยวนครศรีธรรมราชครับ